MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) เป็นสองแพลตฟอร์มการเทรด Forex ยอดนิยมที่พัฒนาโดย MetaQuotes ซอฟต์แวร์ทั้งสองมีฟีเจอร์สำหรับการวิเคราะห์ ตรวจสอบ และจัดการการเทรด แต่มีความแตกต่างบางประการที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือก
เครื่องมือการวิเคราะห์: MT4 มาพร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค 30 ตัว ช่วยให้เทรดเดอร์วิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจเข้าซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ MT5 มีเครื่องมือวิเคราะห์เพิ่มเติมจาก MT4 อีก 8 ตัว เช่น Keltner Channel, Renko Bars, Ichimoku Kinko Hyo เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเครื่องมือครบครัน
กรอบเวลา: MT4 รองรับกรอบเวลา 9 กรอบ เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้นและระยะกลาง MT5 รองรับกรอบเวลา 21 กรอบ เพิ่มเติมจาก MT4 12 กรอบ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการวิเคราะห์ตลาดในมุมมองระยะยาว
ประเภทของออเดอร์: MT4 รองรับออเดอร์ 4 ประเภท ได้แก่ Buy, Sell, Stop Loss และ Take Profit MT5 รองรับออเดอร์เพิ่มเติมจาก MT4 อีก 2 ประเภท คือ Stop Limit และ Buy Stop Limit ช่วยให้เทรดเดอร์ควบคุมความเสี่ยงและกำไรได้อย่างละเอียด
ประเภทของสินทรัพย์: MT4 รองรับการซื้อขาย Forex เท่านั้น MT5 รองรับการซื้อขาย Forex หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโต เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง
ภาษาการเขียนโปรแกรม: MT4 ใช้ภาษา MQL4 ในการเขียนโปรแกรม Expert Advisors (EA) และ Indicators MT5 ใช้ภาษา MQL5 ซึ่งพัฒนาต่อจาก MQL4 ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ
อินเทอร์เฟซ: MT4 มีอินเทอร์เฟซเรียบง่าย เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ MT5 มีอินเทอร์เฟซทันสมัย ฟีเจอร์การใช้งานเพิ่มเติม เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์
สรุปความแตกต่างระหว่าง MT4 และ MT5
MT4 เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ เน้นการเทรด Forex เครื่องมือใช้งานง่าย MT5 เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ ฟีเจอร์ครบครัน รองรับการเทรดหลากหลายประเภท สมัครและโหลด MT4 ได้ที่นี่
ข้อควรพิจารณา
โบรกเกอร์ Forex บางแห่งรองรับเฉพาะ MT4
กลยุทธ์การเทรดบางประเภทอาจใช้งานได้เฉพาะ MT4
ศึกษาฟีเจอร์ของ MT4 และ MT5 เปรียบเทียบกับความต้องการของคุณ
การเลือกแพลตฟอร์มเทรด Forex ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรด ประเภทของสินทรัพย์ และความชอบส่วนตัว ศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบฟีเจอร์ และเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับคุณ